โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) เกิดจากความเสื่อมของเซลล์สมอง โดยเฉพาะส่วนที่สร้างโดพามีน (dopamine) ซึ่งการสื่อสารประสาทจำเป็นต่อการทำงานของด้านสมอง จึงทำให้โดพามีนเกิดมีปริมาณที่ลดลง จึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว
โรคพาร์กินสันมีอาการที่เด่นชัด คือ สั่น, เกร็ง, เคลื่อนไหวช้า
โรคพาร์กินสันยังมีอาการอื่นๆ ที่สังเกตได้ คือ
ทรงตัวไม่ดี
ความสามารถในการได้กลิ่นลดลง
นอนไม่หลับ พลิกตัวไม่ได้
มีอาการทางจิต
เขียนหนังสือตัวเล็กลง
หลังค่อม ตัวงุ่มลง
มีอาการขยับแขนขารุนแรงขณะหลับ
ความจำระยะสั้นทำงานไม่มีประสิทธิภาพในระยะต้น ความจำเสื่อมในระยะท้าย
ณ ปัจจุบันยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพาร์กินสันอย่างแน่ชัด แต่ในทางการแพทย์เชื่อว่ามีปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดโรคพาร์กินสันได้ ได้แก่
ปัจจัยทางพันธุกรรม ในรายที่มียีนผิดปกติอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคพาร์กินสันได้
ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม เช่น การได้รับสารบางอย่างเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะโดยการสูดดมหรือการรับประทาน หากแต่ยังไม่ทราบว่าสารใดในสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนทำให้เกิดโรคพาร์กินสัน
โรคพาร์กินสันมีทั้งหมด 5 ระยะ
ระยะที่ 1 มีอาการเริ่มต้นคือ ระยะนี้จะมีอาการสั่นเมื่อมีการหยุดพัก หรือไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆของอวัยวะ เช่น นิ้วมือ แขนเป็นต้น นอกจากนี้จะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเเขน ขา และลำตัวร่วมด้วย
ระยะที่ 2 มีอาการจะเริ่มลุกลามไปยังอวัยวะอีกข้างหนึ่ง ผู้ป่วยจะเริ่มหลังงอ เคลื่อนไหวช้าลง หรือเดินตัวโก่งไปข้างหน้า
ระยะที่ 3 มีอาการทรงตัวผิดปกติ มีโอกาสหกล้มได้ง่าย เวลาลุกยืนจะลำบาก
ระยะที่ 4 ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง อาการสั่นลดลง แต่มีอาการเเข็งเกร็งและเคลื่อนไหวช้ากว่าเดิม ในระยะนี้ควรมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะผู้ป่วยอาจจะหกล้มได้ง่าย และไม่สามารถยืนได้
ระยะที่ 5 กล้ามเนื้อเเข็งเกร็งมากขึ้นจนผู้ป่วยเคลื่อนไหวไม่ได้เลย กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง มือเท้าหงิกงอ เสียงแผ่วเบา ไม่มีการแสดงความรู้สึกทางสีหน้า ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ทำให้ร่างกายซูบผอมลง ทรวงอกเคลื่อนไหวได้น้องลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ
วิธีการรักษา
การรักษาด้วยตัวเอง คือ ออกกำลังกายและฝึกตามที่นักกายภาพบำบัดแนะนำ
การรักษาทางกายภาพบำบัด
ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ฝึกการประสานสัมพันธ์ (coordination)
ฝึกการทรงตัว
ฝึกการเดิน
กระตุ้นการรับรู้
การรักษาด้วยยา เป็นการรักษาตามอาการ โดยใช้ยาที่ออกฤทธิ์ที่ระบบโดพามีน
การรักษาโดยการผ่าตัดกระตุ้นสมองส่วนลึก (deep brain stimulation) เป็นวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังขั้วไฟฟ้าเพื่อไปกระตุ้นสมอง ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ซึ่งเคยได้รับการรักษาด้วยยา แต่มีอาการมากขึ้นจนการรักษาด้วยยาไม่ให้ผลดีเท่าที่ควร
การรักษาด้วยยา เป็นการรักษาตามอาการ โดยใช้ยาที่ออกฤทธิ์ที่ระบบโดพามีน
การรักษาโดยการผ่าตัดกระตุ้นสมองส่วนลึก (deep brain stimulation) เป็นวิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังขั้วไฟฟ้าเพื่อไปกระตุ้นสมอง ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ซึ่งเคยได้รับการรักษาด้วยยา แต่มีอาการมากขึ้นจนการรักษาด้วยยาไม่ให้ผลดีเท่าที่ควร
ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย